ประเทศ
ฝรั่งเศส
ภาษา
ภาษาฝรั่งเศส
ที่ตั้ง
ปารีส เป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส บนใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์
สกุลเงิน
ยูโร (1บาทไทยมีค่าเท่ากับ 0.028 ยูโร)
ค่าเครื่องบิน
เริ่มต้นที่ 7118 ยูโร
สภาพภูมิอากาศ
ฤดูใบไม้ผลิ (ปลายเดือนมีนาคม-เดือนมิถุนายน) สำหรับผู้ชื่นชอบดอกไม้ใบไม้ที่กำลังผลิดอกออกบาน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ประมาณ 10 -18 องศาเซลเซียส อากาศกำลังเย็นสบาย หรืออาจจะเย็นจัดซักหน่อย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยควรเตรียมเสื้อผ้าที่ไม่หนามาก อย่างเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวและเสื้อแจ็คเก็ตหรืออาจจะเตรียมผ้าพันคอ และถุงมือเผื่อไปด้วย
ฤดูร้อน (เดือนกรกฎาคม – กันยายน ) ระยะเวลากลางวันจะยาวนาน ทำให้สามารถเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน และเที่ยวสถานที่ต่างๆได้หลากหลายในแต่ละวัน อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 20 – 30 องศาเซลเซียส ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย อาจนำผ้าคลุมไหล่หรือแจ็คเก็ตเนื้อเบาบางติดไปด้วย
ฤดูใบไม้ร่วง (ปลายเดือนกันยายน – ธันวาคม) เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าสนใจเนื่องจากเมืองทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี อากาศดี แต่อาจมีฝนตกเล็กน้อย อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10 – 18 องศาเซลเซลเซียส จึงควรพกร่มหรือเสื้อกันฝนติดตัวไปด้วย
ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – มีนาคม) หากชื่นชอบความหนาวเย็นแบบสุดๆ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ประมาณ -1 – 5 องศาเซลเซียส ควรเตรียมเสื้อผ้าที่หนาสามารถต้านทานอากาศหนาวเย็นได้ และอาจเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตหรือลองจอห์นที่ให้ความอบอุ่นดี
ไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮ็อตในปารีส
หอไอเฟล (Eiffel Tower หรือ La tour Eiffel)

สร้างด้วยเหล็กขึ้นเพื่อเป็นที่เปิดงาน World’s Fair ของปี 1889 และตั้งชื่อตามผู้ออกแบบคือ Alexandre Gustave Eiffel ด้วยศิลปะของการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และชาญฉลาด การเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในฝรั่งเศส และการเป็นอนุสาวรีย์ (แบบเสียค่าเข้าชม) ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก ที่นี่จึงได้เป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศฝรั่งเศส สำหรับผู้รักการถ่ายรูปทั้งหลาย คุณจะได้ฟินถ่ายรูปหนำใจแน่จากมุมทั้งด้านหน้าที่มีสวนและด้านหลังที่เป็นฝั่งแม่น้ำแซน (Seine River) เมื่อมาทั้งที ก็ขอให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจจากชั้นต่างๆ บนของหอนี้ด้วย โดยซื้อบัตรได้ที่บู้ธบริเวณฐานของหอไอเฟล (คิวยาวมากๆ) หรือเว็บออนไลน์
มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame Cathedral หรือ Notre Dame de Paris)

เป็นศาสนสถานนิกายคอทอลิกที่สำคัญของฝรั่งเศส เพราะเคยเป็นศูนย์กลางของเมืองในยุคกลาง (Medieval) จนถึงปัจจุบัน เป็นหนึ่งในมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สถาปัตยกรรมของมหาวิหารนี้ใช้ศิลปะที่ละเอียดอ่อนสไตล์กอธิก (Gothic) ใช้โครงสร้างที่เป็นไม้ และใช้วัสดุอื่นๆ อีก เช่น หิน ตะกั่ว และกระจกสี ภายในวิหารมีรูปปั้นและภาพจิตรกรรมที่สวยงามเกี่ยวกับพระแม่มารี และต้องขึ้นบันไดมากถึง 387 ขั้นเพื่อไปถึงยอดของโบสถ์ เรียกได้ว่า มหาวิหารนอเทรอดามแห่งนี้มีทั้งความงดงามและใหญ่โตหรูหรามากทีเดียว
แม่น้ำแซน (Seine River หรือ La Seine à Paris)

พลาดละถ้าคุณไม่ได้มาชมพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำแซน ซึ่งไหลผ่านสถานที่สำคัญและย่านสวยงามของกรุงปารีส ทั้งหอไอเฟิล มหาวิหารนอเทรอดาม แกรนด์พาเลส (Grand Palais) พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ โบสถ์แซงต์ชาแปลล์ เป็นต้น เราขอแนะให้ล่องเรือยามใกล้ค่ำเพื่อที่จะได้ฟินกับการชมทิวทัศน์ของเมืองและสถาปัตยกรรมสวยงามยามต้องแสงอาทิตย์สีส้มและยามต้องแสงไฟในช่วงราตรี
ถนนฌ็องเซลิเซ่และประตูชัยนโปเลียน (Champs-Élysées & Arc de Triomphe)

ถนนฌ็องเซลิเซ่ได้รับขนานนามว่า ถนนที่สวยงามที่สุดในกรุงปารีส ซึ่งเริ่มต้นจาก Place de la Concorde เป็นที่ตั้งของพลาซ่าที่มีอนุสาวรีย์ยอดพีระมิดสไตล์อียิปต์ ผ่านกรองด์ปาเลส์ (Grand Palais) เปอตีปาเลส์ (Petit Palais) โรงละครรงปวง (Rond-Point) โรงละครมาริก์นี่ (Marigny) และย่านช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม ถนนสายนี้ไปจรดที่ประตูชัยนโปเลียนหรือประตูชัยปารีส ฝรั่งเศส อนุสรณ์สถานสำหรับนโปเลียนและผู้ที่ต่อสู้และนำชัยชนะของสงครามปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามนโปเลียน เราสามารถขึ้นไปชมชั้นบนของประตูชัยได้ จากจุดสูงของประตูชัยนี้ คุณจะได้ชมและเก็บภาพถนนฌ็องเซลิเซ่และถนนสายอื่นๆ รวม 12 สายที่ทอดยาวมุ่งสู่ประตูชัยนี้
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum หรือ Musée du Louvre)

เดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวงก่อนที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จะย้ายไปประทับที่พระราชวังแวร์ซายส์ ปัจจุบันลูฟร์ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกจำนวนมาก รวมไปถึงภาพโมนาลิซ่า ศิลปะภาพวาดชิ้นเอกของโลกด้วย ไม่เพียงแต่ศิลปะภาพวาดและโบราณวัตถุฝรั่งเศสเท่านั้น แต่เราจะได้ยลภาพวาด รูปปั้น และวัตถุโบราณจากอียิปต์ กรีก โรมัน เอทรุสแกน (Etruscan กลุ่มชนอารยธรรมที่อยู่บริเวณตอนกลางของอิตาลี่) ตะวันออกกลาง และศิลปะของอิสลามอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวในปารีสที่ต้องไปเยือน เพราะมีทั้งสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามและเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
โรงละครปาเลส์การ์นิเย่ (Palais Garnier)

เป็นโรงละครโอเปร่าแห่งชาติ ซึ่งสามารถจุคนได้ถึง 1,979 ที่นั่ง ชื่อนี้ใช้เรียกขานตามผู้สร้างชาร์ส การ์นิเย่ (Charles Garnier) ซึ่งได้ออกแบบได้อย่างวิจิตรตระกานตาและหรูหราอย่างยิ่ง และถูกจัดเป็นศิลปะชิ้นเอกด้านสถาปัตยกรรมโรงละครของศตวรรษที่ 19 ต่อมาได้เพิ่มให้มีห้องสมุดและสถานที่แสดงนิทรรศการโดยเฉพาะด้านศิลปะการแสดง และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสถานที่สำคัญอื่นๆ ของโลก เช่น ห้องสมุดคองเกรสที่กรุงวอชิงตัน โรงละครฮานอยที่เวียดนาม โรงละครริโอเดอจาเนโรและโรงละคอะเมซอนที่บราซิล
โบสถ์แซงต์ชาแปลล์ (Sainte Chapelle)

เป็นโบสถ์ที่ใช้สำหรับสวดมนต์ของราชวงศ์โดยเฉพาะ ซึ่งใช้ศิลปะสไตล์กอธิคในช่วงยุคกลางและประดับด้วยกระจกสีสไตล์ศตวรรษที่ 13 ที่สวยงามมากมายจนเรียกได้ว่า เป็นสถานที่ที่มีคอลเล็คชั่นกระจกสีของศตวรรษนี้มากที่สุดเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นโบสถ์ขนาดเล็ก แนะนำว่า ไปช่วงเช้าจะดีที่สุดเพราะยังมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะและจะได้เที่ยวสบายๆ
ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (Sacré-Cœur Basilica หรือ Basilique du Sacré-Cœur)

ชื่อเต็มคือ The Basilica of the Sacred Heart of Paris หรือบาซิลิก้า หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส ตั้งอยู่บนยอดของเนินเขามงต์มาร์ทร์ (Montmartre) อยู่ทางทิศเหนือของปารีส เป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่ชาวฝรั่งเศสซึ่งเสียชีวิตจากสงครามกับเยอรมนี โดยใช้ศิลปะสไตล์โรมัน-ไบเซนไทน์และประกอบด้วยสวน น้ำพุ หอระฆัง และตัวอาคารที่มียอดเป็นลักษณะโดมและตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสก ที่โดมกลางซึ่งสูงที่สุดของอาคารนั้นเปิดให้เราขึ้นไปชมวิวปารีสแบบพาโนราม่าได้
พระราชวังลักเซมบูร์ก (Luxembourg Palace หรือ Palais du Luxembourg)

เดิมถูกสร้างเพื่อเป็นที่ประทับของพระนางมารี เมดิซี (Marie de Médicis) มารดาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส วังแห่งนี้ก็ได้รับการดัดแปลงให้เป็นอาคารรัฐสภา ส่วนทิศเหนือของตัววังก็ปรับให้เป็นที่พักของประธานสภาสูง อาคารทางทิศตะวันตกก็ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ทางทิศใต้ของวังเป็นสวนขนาดใหญ่อลังการ (10 ไร่) ประกอบด้วยสระน้ำ รูปปั้นของราชินีฝรั่งเศสและนักบุญต่างๆ ต้นไม้ ไม้ดอกและไม้ประดับที่จัดไว้อย่างสวยงามลงตัว มุมตะวันตกเฉียงใต้ของสวนนี้มีเวทีละครหุ่นท่ามกลางสวนแอ๊ปเปิ้ลและลูกแพร ใกล้ๆ กันนี้ มีศาลาพักผ่อน ซึ่งจะมีการแสดงดนตรีฟรี ร้านกาแฟ และร้านอาหารให้พักผ่อนหย่อนใจ ใครที่ชอบชมความงามทางศิลปะและจิบกาแฟผ่อนคลายในสวนสวย ที่นี่ใช่แน่
พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ (Orsay Museum หรือ Musée d’Orsay)

อีกพิพิธภัณฑ์หนึ่งที่จัดอยู่ในรายการต้องไปเยือน เพราะที่นี่รวบรวมศิลปะหลายแขนงของฝรั่งเศส ได้แก่ จิตรกรรม ปฏิมากรรม เฟอร์นิเจอร์ และภาพถ่าย ในปีค.ศ. 1848-1915 โดยมีคอลเล็คชั่นศิลปะชิ้นเอกของสมัยอิมเพรสชั่นนิสซึ่ม (Impressionism) และหลังสมัยอิมเพรสชั่นนิสซึ่ม (Post-impressionism) มากที่สุดในโลก ซึ่งรวมทั้งภาพวาดของศิลปินชื่อดังอย่าง Monet, Manet, Renoir และ Van Gogh นอกจากจะได้ชมศิลปะสวยๆ แล้ว บอกได้เลยว่า คุณจะได้เต็มอิ่มกับสถาปัตยกรรมอันสวยงามของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งเดิมทีสร้างเพื่อเป็นสถานีรถไฟ